โครงการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรสู่มืออาชีพ กิจกรรมการใช้สื่อนวัตกรรมเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนของบุคลากร ล่าสุด
๑. หลักการและเหตุผล / เหตุผลความจำเป็น
ในปัจจุบันโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมทางการศึกษาเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างยิ่ง ครูและบุคลากรทางการศึกษาจึงต้องพัฒนาทักษะและความสามารถในการใช้สื่อนวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อนำไปปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (พ.ศ. 2565) พบว่า นักเรียนกว่าร้อยละ 77 ของประเทศไทยใช้สมาร์ทโฟนเพื่อการเรียนรู้ แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของผู้เรียนอย่างแยกไม่ออก อีกทั้งการวิจัยในระดับอุดมศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้ชัดว่า การใช้สื่อดิจิทัลในการเรียนการสอนสามารถช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยเฉพาะวิชาที่เน้นการปฏิบัติ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และวิชาคอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม หากครูและบุคลากรในสถานศึกษาไม่ได้รับการพัฒนาและส่งเสริมทักษะการใช้สื่อนวัตกรรม ย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพการจัดการเรียนการสอน ได้แก่
- ผู้เรียนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ที่ทันสมัย ทำให้ขาดโอกาสในการเรียนรู้ที่หลากหลายและท้าทาย
- ขาดทักษะดิจิทัลที่จำเป็นต่ออนาคต ส่งผลให้ไม่สามารถแข่งขันในตลาดแรงงานและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้
- โรงเรียนปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา ทำให้ลดความน่าสนใจในการเรียนการสอนและอาจกระทบต่อคุณภาพผู้เรียนโดยรวม
ดังนั้น โครงการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรสู่มืออาชีพ กิจกรรมการใช้สื่อนวัตกรรมเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้ครูมีความรู้และทักษะที่ทันสมัยในการจัดการเรียนการสอน แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่น่าสนใจ กระตุ้นการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมยุคดิจิทัล
๒. วัตถุประสงค์
๑. เพื่อพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาในการใช้สื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัย ๒. เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมดิจิทัล
ดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่
